Shorinzan Nanakusa Taisai Daruma Ichi

Japan Backpacker 2019 EP 7 By LungNut Tour

#ทาคาซากิ #Takasaki #โตเกียว #Tokyo
เช้าของวัน 7 แล้วน่ะครับ ที่เรามาเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น (11 พ.ย.) วันนี้เราคณะทัวร์สองคนของเราออกทัวร์กันสายหน่อย เพราะเมืองที่จะไปอยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก หลังจากที่ได้ตื่นกันแต่เช้ามืดมาหลายวันแล้ว ในวันนี้เราก็นั่งรถไฟชินคันเซนสาย SHINKANSEN HAKUTAKA ไปลงที่เมืองทาคาซากิ Takasaki ใช้เวลาเดินทาง 24 นาที ระยะทาง 74.7 km ค่ารถไฟ 3,740 เยน/1,047 บาท แล้วไปต่อ รถไฟท้องถิ่น สาย JR Shinetsu Line for Yokokawa ไปลงสถานี Gumma-Yawata นั่งไปแค่ 7 นาที ก็ถึงสถานีที่หมายแล้ว เรามีเป้าหมายที่ต้องทำก็คือ ไปไหว้พระขอพรที่ วัดดารุมะจิ ซึ่งต้องเดินเท้าจากสถานีรถไฟออกไปอีกประมาณ15-20 นาที ระหว่างที่เดินไปนั้นเราก็ได้สัมผัส กับบรรยากาศบ้านเมืองของชาวญี่ปุ่นในแถบชานเมือง เงียบ สงบ และ สะอาด อากาศเย็นพอสมควรอุณหภูมิประมาณ 7-8 องศาเซลเซียส
สำหรับ วัดดารุมะจิ แห่งโชรินซัน (Shorinzan Darumaji) ตั้งอยู่ในจังหวัดกุนมะ (Gunma) เมืองทาคาซากิ วัดดารุมะจิ นั้นถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อปี 1697 หรือกว่า 300 ปีมาแล้ว ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของตุ๊กตาดารุมะ (Daruma) เพราะว่า ตุ๊กตาดารุมะ มีการทำออกมา โดยมีต้นแบบมาจากภาพวาดของพระโพธิธรรม เป็นฝีมือการวาดของพระผู้ก่อตั้งวัดดารุมะจิแห่งนี้ จึงถือกันว่าเป็น วัดต้นกำเนิดตุ๊กตาดารุมะ เป็นที่รู้จักกันไปทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย ตุ๊กตาดารุมะ หรือ ตุ๊กตาล้มลุกสีแดงสด เจ้าของดวงตากลมโตที่ดูน่ารัก คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นตุ๊กตานำโชค โดยวิธีการขอพรกับตุ๊กตาดารุมะนั้น จะนำปากกาไปเขียนวงกลมแค่ดวงตาด้านซ้ายให้กับตุ๊กตาก่อน เมื่อคำขอพรนั้นเป็นจริงหรือประสบดั่งที่เราตั้งหวังไว้ ก็นำปากกามาเขียนที่ดวงตาข้างขวาอีกข้าง ก่อนนำไปคืนที่วัดต่าง ๆ ในปัจจุบันที่วัดแห่งนี้ มีการนำตุ๊กตาดารุมะที่ผู้คนต่างขอพรสำเร็จแล้ว มาตั้งวางเรียงรายเป็นจำนวนมาก และ ในวันที่ 6 - 7 มกราคมของทุกปี ทางวัดมีการจัดงาน “โชรินซัน นานาคุซะ ไทไซ ดารุมะอิชิ” (Shorinzan Nanakusa-Taisai Daruma-ichi) ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มากของเมืองทาคาซากิ โดยจะมีผู้คนจำนวนกว่า 2-3 แสนคน เดินทางมาร่วมงานกัน ทางวัดก็จะรวบรวมนำตุ๊กตาดารุมะที่สิ้นสุดหน้าที่ลงแล้ว โดยมีผู้คนนำเข้ามาที่วัดเป็นจำนวนมาก นำไปวางที่ลานโล่งก่อนมาประกอบพิธีสวดมนต์และจุดไฟเผาตุ๊กตาทั้งหมด ส่วนประชาชนที่เดินทางไปร่วมงานนั้น ก็มาเพื่อซื้อตุ๊กตาดารุมะตัวใหม่กลับไป พร้อมคำอธิษฐานขอพรใหม่ๆ ในช่วงของเทศกาลปีใหม่นั่นเอง สำหรับเราได้นำตุ๊กตาดารุมะ จำนวน 2 ตัว ซึ่งได้ขอพรและประสบความสำเร็จตามที่ได้ขอไปแล้ว นำกลับไปคืนที่วัดทั้ง 2 ตัว พร้อมกับซื้อตัวใหม่ที่ต้องใหญ่ขึ้นกว่าตัวเก่า นำกลับมาเพื่อเตรียมของพรในช่วงวันปีใหม่ หากสำเร็จอีกก็คงต้องบินกลับนำตุ๊กตากลับไปคืนที่วัดอีกครั้ง...ครับ ฮาๆๆๆ นอกจากการซื้อไปเพื่อขอพรแล้ว ตุ๊กตาดารุมะ คนญี่ปุ่นยังถือว่าเป็นของมงคล ที่คนนิยมซื้อไปมอบให้กัน เพราะแสดงถึงความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ อย่างสุภาษิตญี่ปุ่นที่ว่า “ต่อให้ล้มเจ็ดครั้งจงลุกขึ้นมาเป็นครั้งที่แปด” คำนี้มีที่มาจากตุ๊กตาล้มลุกเพราะไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้งก็จะลุกขึ้นมาได้ใหม่เสมอ จึงถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงความพยายามไม่ย่อท้อต่อความยากลำบากอีกด้วย สำหรับบรรยากาศภายในวัด ในวันธรรมดาที่เราไปเที่ยวชมนั้น เงียบสงบและร่มรื่นมาก วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาต้นไม้ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีเป็น สีแดง สีเหลืองสดใส รอบๆ บริเวณวัดก็ประดับตกแต่งไปด้วย ตุ๊กตาดารุมะ หลากหลายขนาดวางเรียงรายเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกว่าเป็นวัดที่มีความเป็นการ์ตูนแปลกตาและโดดเด่นกว่าวัดหรือศาลเจ้าอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เรามักเจอแต่ รูปปั้นพระ รูปปั้นสิ่งสักการะอื่น ๆ แต่วัดแห่งนี้กลับเป็นตุ๊กตาน่ารักสดใส นอกเหนือจากตุ๊กตาจำนวนมากแล้ว ที่นี่ยังมีโซนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ดารุมะเล็กๆ จัดแสดงตุ๊กตาดารุมะในแต่ละยุคแต่ละสมัย พร้อมคำอธิบายเล่าความเป็นมาในอดีต เข้าไปดูไปชมได้แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพนะครับ ส่วนสินค้าที่ขายในวัดแน่นอนอยู่แล้วว่า ต้องเป็น “ดารุมะ” มีตั้งแต่เครื่องรางแบบต่างๆ เซียมซีตัวดารุมะ โดยใบเซียมซีนั้นซ่อนอยู่ข้างในตุ๊กตาดารุมะตัวจิ๋ว ลูกอม-ขนมดารุมะ หรือหากใครที่อยากออกแบบเจ้าตุ๊กตาดารุมะด้วยตนเอง ภายในตัวเมืองทาคาซากิก็มีศูนย์หัตถกรรม ที่ผลิตเจ้าตุ๊กตาในชื่อของ “ทาคาซากิ ดารุมะ” ให้ได้โชว์ฝีมือการตกแต่งตัวตุ๊กตาวาดคิ้วและหนวดในแบบที่เราต้องการได้ด้วย

ช่วงบ่ายๆ เราก็เดินทางกลับไปเมืองโอมิยะ เพื่อไปหารถไฟต่อเข้าไปเมืองโตเกียวกันอีกครั้ง โดยนั่งรถไฟ JR Saikyo Line Local for SHINJUKU ไปลงสถานี IKEBUKURO แล้วใช้บริการรถไฟใต้ดินสาย JR Yamanote Line ที่วิ่งวนรอบกรุงโตเกียว ไปลงสถานี Takadanobaba ตามหาร้าน KFC สาขา ทาคาดะโนะบะบะ ใกล้กับย่านชินจูกุอันโด่งดัง เพื่อไปนั่งกินไก่ทอด KFC ในแบบที่หากินที่ไหนไม่ได้ เพราะที่สาขาแห่งนี้มีเบียร์ วิสกี้ ไวน์ และ ค็อกเทลต่าง ๆ เสิร์ฟคู่กับไก่ทอดร้อนๆ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Takadanobaba ศูนย์กลางทางรถไฟที่สำคัญที่สุด ติดกับมหาวิทยาลัย Waseda ที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศด้านวิชาการ โดยได้รับการแปลงโฉมใหม่เป็นสาขาพิเศษในรูปแบบ “คาเฟ่แอนด์บาร์” นอกจากมีไก่ทอดแบบต้นตำรับของ KFC แล้วยังมีเมนูพิเศษอื่นๆ ที่ไม่มีจำหน่ายที่สาขาอื่น รวมทั้งจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ 17.00น.เป็นต้นไป โดยเปิดให้บริการมาปีกว่าๆแล้ว ภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีของไม้และอิฐ ดูหรูหราทันสมัยกว่าสาขาอื่น ๆ โดยในช่วงเช้าตั้งแต่ 7.00น.จะจำหน่ายอาหารและกาแฟตามปกติ แต่ในส่วนช่วงค่ำทางร้านเปิดบริการเครื่องดื่ม พร้อมเมนูพิเศษกว่า 30 รายการ เช่น ไก่รมควัน มันฝรั่งอบ พาสต้า ฯ ให้ลูกค้าเลือกสำหรับสังสรรค์กินดื่มภายในร้าน